ปัจจุบันไมโครเวฟได้ถูกนำมาเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญของห้องครัวมากขึ้น ไม่ว่าจะอยู่หอพัก อยู่คอนโด อยู่บ้าน ก็ล้วนมีไมโครเวฟตั้งไว้เพื่ออำนวยความสะดวกของมื้ออาหาร ด้วยข้อดีที่ราคาไม่แพงมาก สามารถเอื้อมถึงง่าย ช่วยให้อุ่นอาหารพร้อมกินได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากขึ้น
แต่ในความสะดวกสบายใช้งานง่าย ทำให้ไม่ว่าจะอาหารจานไหน สมาชิกครอบครัวก็มักใช้ไมโครเวฟในการอุ่นอาหารเสมอ และเริ่มกักตุนอาหารสำเร็จรูปมากขึ้น เมื่อหิวก็แค่อุ่นไมโครเวฟทาน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วก็แอบมีโทษของคลื่นไมโครเวฟแอบแฝงอยู่ไม่น้อยหากใช้ไม่ถูกวิธี
คลื่นไมโครเวฟ คืออะไร ?
คลื่นไมโครเวฟ (Microwave) คือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสำหรับปรุงอาหาร มีลักษณะสัญญาณคลื่นเหมือนคลื่อนวิทยุ คลื่นทีวี คลื่นแสงอินฟราเรด คลื่นแสงธรรมดา แสงอัลตร้าไวโอเล็ต คลื่นรังสีเอกซ์ และคลื่นรังสีแกมม่า แต่ที่แตกต่างคือคลื่นไมโครเวฟจะมีความถี่คลื่นอยู่ที่ประมาณ 2,450 ล้านรอบต่อวินาที (หรือ 2,150 เมกะเฮิรตซ์) เมื่อคลื่นพุ่งไปกระทบอาหารจึงเกิดการเสียดสีความร้อน ทำให้อาหารสุกรวดเร็วมากขึ้น
โทษของคลื่นไมโครเวฟส่งผลอันตรายต่อสมองจริงหรือไม่ ?
หากพูดถึงในแง่ของคลื่นไมโครเวฟที่ส่งผลอันตรายต่อสมอง คำตอบคือ คลื่นไมโครเวฟไม่เป็นอันตรายต่อสมองและร่างกายของมนุษย์ เพราะในการอุ่นอาหารด้วยไมโครเวฟนั้น คลื่นที่ส่งไปกระทบอาหารจะสลายตัวไปในทันที จะไม่มีรังสีตกค้างหรือปะปนมาในอาหาร เพราะเป็นเพียงรังสีที่พุ่งผ่านอาหารแล้วเคลื่อนตัวผ่านไป เหลือเพียงแค่ความร้อนที่ช่วยเร่งให้อาหารสุกเท่านั้น
ซึ่งโทษของไมโครเวฟ ไม่ใช่เรื่องคลื่นแสง แต่กลับเกิดจากการใช้งานเสียมากกว่า เพราะถ้าใช้งานอย่างไม่ระมัดระวัง ไม่ดูแลทะนุถนอมเครื่อง หรือปล่อยให้มีเศษอาหารตกค้างแบบไม่ทำความสะอาด ก็อาจทำให้เหล็กภายในไมโครเวฟเกิดสนิมและเกิดเป็นรอยทะลุ ทำให้คลื่นไมโครเวฟรั่วไหลออกมาปะปนกับอาหาร หรือเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ได้
วิธีใช้ไมโครเวฟอย่างถูกวิธี เพื่อลดอันตรายและโทษของคลื่นไมโครเวฟ
1. ห้ามใช้ภาชนะโลหะทุกชนิด
ไม่ว่าจะภาชนะโลหะหรือภาชนะกระเบื้องขอบเงินขอบทอง ก็ห้ามใช้ใส่อาหารเวลานำเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟ เพราะคลื่นจะไม่สามารถพุ่งผ่านไปกระทบอาหารได้ และเมื่อชนโลหะแล้วคลื่นจะสะท้อนกลับ เกิดการปะทะความร้อนเป็นดวงไฟเล็กๆ เกิดเสียงดัง และอาจเกิดไฟลุกไหม้ในเครื่องไมโครเวฟได้ ดังนั้นเพื่อป้องกันคลื่นเผาไหม้ ควรทำความสะอาดไมโครเวฟอยู่เสมอ ไม่ให้มีคราบน้ำมันซึ่งเป็นตัวนำพาเผาไหม้
2. ใช้ฝาชีทนความร้อนครอบอาหารก่อนอุ่นในไมโครเวฟ
โทษของคลื่นไมโครเวฟคือความร้อนที่อาจจุดประกายไฟกับน้ำหรือน้ำมันที่มีในอาหาร หรือคราบที่เกาะอยู่ตามผนังตู้ด้านในไมโครเวฟไว้ ดังนั้นก่อนอุ่นอาหารควรหาฝาชีพลาสติกที่มีคุณสมบัติทนความร้อนได้ดีมาครอบไว้ให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันการกระเด็นเวลาอาหารเดือด อีกทั้งยังช่วยเรื่องสุขอนามัย และลดเวลาการทำความสะอาดเครื่องไมโครเวฟอีกด้วย
3. อย่านำอาหารผิวมันหรือเปลือกหนาเข้าไปทำให้สุก
เพื่อลดโทษของคลื่นไมโครเวฟ ผู้ใช้งานไม่ควรนำอาหารผิวมัน หรืออาหารที่มีเปลืองแข็งเข้าไปทำให้สุกภายในตู้ เพราะจุดเดือดของความร้อนจะทำให้อากาศภายในเครื่องไมโครเวฟขยายตัว ประกอบกับแรงดันไอน้ำที่มีค่าขึ้นสูง อาจทำให้เกิดเสียงดังระเบิดได้ นอกจากนี้ควรใช้ส้อมจิ้มอาหารที่มีเปลือกหนาให้เป็นรูเสียก่อน เพื่อป้องกันการปะทุของความร้อนที่อัดแน่นภายในเครื่อง
4. เลือกภาชนะให้เหมาะสมกับอาหาร และเผยอฝาปิดเล็กน้อย
ในการอุ่นอาหารด้วยเครื่องไมโครเวฟ ควรเลือกภาชนะที่เหมาะสมกับประเภทอาหาร และสามารถทนความร้อนได้ดี เช่น ชามแก้วทนไฟ ชามกระเบื้อง พลาสติกทนความร้อน ภาชนะไม้ จานกระดาษ เป็นต้น เพื่อลดโทษของคลื่นไมโครเวฟ อีกทั้งถ้าหากต้องการปรุงอาหารด้วยการอุ่นในไมโครเวฟ ควรเผยอฝาปิดเล็กน้อย ไม่ต้องแน่นมาก เพื่ออำนวยความสะดวกให้ไอน้ำพุ่งออกมาได้ง่ายมากขึ้น
นอกจากการใช้เครื่องไมโครเวฟให้ถูกวิธีแล้ว การเลือกซื้อจากยี่ห้อที่เชื่อถือได้ มีมาตรฐาน มีใบรับรองการผลิตอย่างถูกต้องก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะช่วยลดโทษของคลื่นไมโครเวฟได้ และถ้าหากพบว่าเครื่องมีการชำรุดเสียหาย ควรติดต่อช่าง ไม่ควรซ่อมเองเด็ดขาด นอกจากนี้ข้อควรระวังคือขณะเครื่องไมโครเวฟกำลังทำงาน ไม่ควรนำดวงตาไปแนบกับฝาเครื่องเพื่อเฝ้ารอดูอาหาร เพื่อป้องกันการทำงานผิดพลาดของเครื่องไมโครเวฟ
สำหรับใครที่กำลังเป็นกังวลกับโทษของคลื่นไมโครเวฟ ก็ไม่ต้องกังวลมากเกินไป เพียงแต่เวลาใช้งานต้องไม่ประมาท และหมั่นคอยดูแลความสะอาดของเครื่องอยู่เสมอ ก็จะช่วยลดโทษของคลื่นไมโครเวฟได้เยอะแล้ว
อันตรายจากไมโครเวฟเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ขณะที่คุณยังไม่ทันตั้งตัว มาเตรียมรับมือปัญหาสุขภาพที่ไม่คาดฝันไปกับ Rabbtit Care แหล่งรวม ‘ประกันสุขภาพ’ ตั้งแต่อาการเจ็บป่วยทั่วไป ตลอดจนโรคร้ายแรง โดยคุณสามารถเลือกดูแผนประกันสุขภาพที่เหมาะกับตัวเองได้ที่เว็บไซต์ https://rabbitcare.com/ หรือโทร. 1438 ฝ่ายบริการลูกค้าที่พร้อมดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง